Sometime, Some time, Sometimes: 3 คำที่มักใช้ผิดบริบทกับการอธิบายที่น่าทึ่ง!!
บทนำ
“Sam sometimes remembers sometime in the past as a sometime crew at McDonald’s for quite some time.”
ค่อนข้างชวนสับสนใช่ไหม ? แน่นอนล่ะ เพราะการออกเสียงออกของมันนั้นคล้ายคลึงกันขนาดนี้! แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งสามคำนั้นมีหน้าที่และความหมายในประโยคที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในการบรรเทาความสับสนที่เกิดขึ้นจากทั้งสามคำนี้ QQEnglish จะช่วยคุณเอง เพียงแค่อ่านบทความนี้ต่อไป คุณก็จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้งานของทั้งสามคำนี้ไปไม่มากก็น้อย
บางคำนั้นมีการสะกดที่เหมือนกันทุกตัวอักษรแต่ว่ามีความหมายที่หลากหลายเป็นอย่างมาก คำเหล่านี้จะถูกเรียกกันว่า Homonyms —คำที่มีการออกเสียงและการสะกดที่เหมือนกันแต่มีความหมายและหน้าที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง(คำพ้อง) มันอาจจะชวนให้น่างุนงงและสับสน เพราะว่าสิ่งเรานี้ก็เกิดขึ้นกับเจ้าของภาษาเช่นเดียวกันในขณะที่ใช้คำเหล่านี้ แน่นอนว่าไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาดและนี่คือภาษาอังกฤษ!
อ้างอิงจากการวิจัยของคุณ S.Kumphee ในปี 2015 จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่ศึกษาเกี่ยวกับข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ในเรียงความภาษาอังกฤษของนักศึกษาไทยระดับปริญญาตรีที่เรียนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาต่างประเทศ ซึ่งมีการอ้างถึงผลกระทบและข้อผิดพลาดที่มาจากภาษาแม่ของตัวผู้เรียนเอง
เพิ่มเติม ความเข้าใจเกี่ยวกับคำพ้องนั้นถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความผิดพลาดในการใช้คำเหล่านั้น อ้างอิงจาก Hoffman & Tamm ในปี 2020 ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของภาษาหรือผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองนั้นล้วนมีปัญหาเดียวกันและการเข้ารหัสที่ขึ้นอยู่กับบริบทในระบบหน้าที่ของคำของการประมวลผลของสมองเราเพื่อเจอกับคำพ้อง Elston-Güttler & Friederici กล่าวในการศึกษาเมื่อปี 2007 ทั้งสองคนสามารถแก้ความกำกวมได้
อย่างไรก็ตาม คำศัพท์สามคำนี้: sometime, some time, และ sometimes, คือคำที่มีการใช้งานที่ผิดพลาดบ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษ เหมือนกับแฝดสามในภาษาอังกฤษที่มีคุณสมบัติเหมือนกันแต่ก็มีความแตกต่างเช่นกันและมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันในลักษณะเฉพาะของตนเอง
คำที่ใช้ผิดบ่อย: ความแตกต่างและตัวอย่างของ Sometime, Some time, และ Sometimes
แม้ว่าทั้งสามคำนี้จะมีการออกเสียงที่คล้ายคลึงกันแต่พวกมันนั้นมีความหมายและลักษณะการใช้ในประโยคที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง นี่คือสาเหตุว่าทำไมพวกเราจึงจำเป็นต้องระวังหน้าที่และวัตถุประสงค์ของคำในประโยค
Sometime¹
นี่คือสองคำที่มักถูกใช้อย่างบ่อยครั้งเมื่อพูดถึง “ช่วงเวลา” หรือระยะยาว พวกเราไม่ทราบว่ามันใช้เวลานานเท่าไหร่แต่มันจะต้องใช้เวลาที่นานพอควร ความหมายของมันนั้นจะคล้ายคลึงกับคำว่า “for a while” พวกเราใช้คำนี้ในการระบุได้ทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ยังนำมาซึ่งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระยะเวลาที่ระบุไว้ด้วย
ตัวอย่าง:
1. “Let’s meet again sometime.”
คำอธิบาย: ในประโยคนี้กำลังบอกว่า A บอกกับ B ว่า เราควรจะเจอกันอีกครั้ง แต่ไม่ได้บอกว่าถึงเวลาที่แน่ชัด
2. “Come and revisit us sometime next month.”
คำอธิบาย: A ในที่นี้กำลังร้องขอให้ B กลับมาเยี่ยมอีกครั้งในเดือนถัด ๆ ไป แต่เป็นได้ทั้งในเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม ธันวาคม เป็นต้น (หรือเป็นได้ทุกเดือนหากเป็นเดือนถัด ๆ ไป)
3. “I’ll enroll in Fine Arts sometime this spring season!”
คำอธิบาย: ในประโยคนี้มีการอธิบายถึงในการสมัครเรียนในปีหน้า หรือปีถัด ๆ ไปตามเท่าที่ยังเป็นฤดูใบไม้พลิของปีถัด ๆ ไป
4. “Sometime soon in January, we’ll get married.”
คำอธิบาย: เป็นการอ้างถึงการแต่งงานที่เจอเกิดขึ้นในเดือนมกราคม แต่ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าปีถัดไป หรือปีถัด ๆ ไป
5. “Let’s have a dinner date at 7:00 p.m. sometime soon.“
คำอธิบาย: .ในประโยคนี้เป็นการเชิญชวนไปทานอาหารตอน 7 นาฬิกา (กลางคืน) หรือหนึ่งทุ่มไทยในวันถัด ๆ ไป
บทสนทนา:
Andrei: Hello there, Ash! It was nice meeting you.
Ash: Thanks! Me, too.
Andrei: Let’s have a picnic sometime in the summer!
Ash: Great idea. How about in the park?
Andrei: Sure! That’s awesome. See you sometime in the summer!
Ash: Yeah, sometime soon!
คำอธิบาย: ในประโยคนี้ที่ใช้คำว่า “sometime,” หมายถึงพวกเขากำลังวางแผนในการปิคนิกในสวนสาธารณะในช่วงหน้าร้อน อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจนถึงปีอย่างชัดเจน แต่เป็นที่ชัดเจนว่าพวกเขาจะทำแน่นอนในอนาคต
Sometime²
คำนี้สามารถใช้ในฐานะของคำคุณศัพท์ ที่หมายถึงมันสามารถที่จะใช้ขยายคำนามได้ โดยจะมีความหมายและหน้าที่ใกล้เคียงกับคำว่า “former” หรือ “previous.” พวกเราสามารถใช้คำนี้ในการพูดถึงเกี่ยวกับตัวละครเก่า ๆ อาชีพในอดีต หรือบางอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตแต่จะไม่ได้เกิดขึ้นในปัจจุบันแล้ว
ตัวอย่าง:
1. “Danny, a sometime waiter at McDonald’s, works as a pilot now.”
คำอธิบาย: ประโยคนี้หมายความว่า อาชีพเดิมของ Danny นั้นเคยทำงานเป็นพนักงานบริการที่ McDonald มาก่อนที่จะได้รับใบอนุญาตการขับขี่ยานบินและทำงานเป็นนักบิน
2. “Keith, a sometime bully in high school, became a priest 20 years later.”
คำอธิบาย: ในประโยคนี้กำลังบอกพวกเราว่า Keith นั้นคือบุคคลที่รู้จักกันในฐานะผู้ที่ชอบกลั่นแกล้งผู้อื่นในขณะที่เขาเรียนในระดับชั้นมัธยมและกลายเป็นนักบวชหลังจากที่เขาแก่ขึ้น
3. “He is an engineer, a sometime famous carpenter in the town.”
คำอธิบาย: ในเนื่อความนี้นั้นหมายถึงก่อนที่เขาจะกลายเป็นวิศวกร เขาเคยเป็นช่างไม้ที่มีชื่อเสียงมาก่อน
4. “Agatha, who was a sometime supervisor, is our CEO now!”
คำอธิบาย: ในประโยคนี้ เป็นการกล่าวถึง Agatha คนที่เคยเป็นหัวหน้างานแล้วกลายเป็น CEO
5. “The famous writer, a sometime science teacher, received a platinum award.”
คำอธิบาย: ก่อนที่เธอจะได้ถ้วยรางวันระดับแพลตินัมสำหรับงานเขียนของเธอนั้น เธอเคยเป็นครูสอนวิทยาศาสตร์มาก่อน
บทสนทนา:
Sam: Hello there, I have good news for you!
Troy: What is it?
Sam: Did you remember Alex? A sometime bully in high school?
Troy: Yes! What happened?
Sam: He is a well-mannered seaman now and has changed a lot.
Troy: Oh! I see. Tiffany, his ex-girlfriend, a sometime saleslady, is a model now, too!
Sam: Really? What a glow-up, man!
คำอธิบาย: ในบทสนทนานี้ใช้คำว่า “sometime” ในความหมายที่เหมือนกับคำว่า “former.” ซึ่งพวกเขากำลังพูดถึง Alex บุคคลที่ชอบกลั่นแกล้งผู้อื่นที่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนกลายเป็นคนที่ดีมากขึ้น รวมไปถึง Tiffany ที่เปลี่ยนงานจากพนักงานเงินเดือนเป็นนางแบบ
Some Time
คำนี้คือสองคำที่ใช้แสดงออกเมื่อพูดถึง “ช่วงเวลา” หรือระยะเวลาที่ยาวนานระดับหนึ่ง โดยไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่ามีระยะเวลานานเท่าใดแต่สามารถครอบคลุมในระบะเวลาที่ยาวนานระดับหนึ่ง ซึ่งจะใกล้เคียงกับความหมายของคำว่า “for a while” – สักครู่หนึ่ง พวกเราจะใช้คำนี้ในการระบุถึงช่วงเวลาในอดีต ปัจจุบัน อนาคตโดยที่เนื้อความจะไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนถึงระยะของช่วงเวลา
ตัวอย่าง:
1. “I think I have some time tomorrow morning.”
คำอธิบาย: ในประโยคนี้กำลังสื่อความว่า เขายังมีเวลาอีกพอสมควรในเช้าวันพรุ่งนี้ แต่ไม่สามารถระบุระยะเวลาที่แน่ชัดได้ว่ายาวนานเท่าไหร่
2. “It took me some time to learn English.”
คำอธิบาย: ผู้พูดกำลังพูดว่าเขาไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ในช่วงเวลาข้ามคืน เพราะว่ามันจำเป็นต้องอาศัยเวลาระยะหนึ่งในการเรียนรู้มัน
3. “It will take some time to wait for the supermarket to open.”
คำอธิบาย: ผู้พูดกำลังกล่าวถึงการรอให้ห้างสรรพสินค้าเปิดให้บริการ ซึ่งอาจจะอยู่ในบริบทของการที่ผู้พูดเป็นลูกค้าที่เดินทางมาถึงก่อนเวลาที่ห้างสรรพสินค้าเปิด.
4. “Tiara took some time to cry after dinner.”
คำอธิบาย: Tiara ร้องไห้อยู่พักใหญ่หลังจากทานอาหาร (ไม่ได้ระบุระยะเวลาว่านานเท่าไหร่)
5. “The athlete takes some time to relax after the game.”
คำอธิบาย: หลังจากการแข่งขันจบลง นักกีฬาได้พักผ่อนครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าใช้เวลานานเท่าใดกับการพักผ่อนหลังการแข่งขันจบลง
บทสนทนา:
Zack: Hey, Joe! What are your plans for this weekend?
Joe: I am going to take some time walking on the beach. How about you?
Zack: Well, I was going to take some time to relax after having exercises this morning.
Joe: Are you free next Sunday?
Zack: Yes! I have some time on Sunday next week.
Joe: Then, let’s have some time watching a movie together.
Zack: Good idea!
คำอธิบาย: ในบทสนทนานี้นั้นใช้ “some time” ซึ่งหมายความว่าพวกเขากำลังพูดถึงระยะเวลาหนึ่ง แม้ว่าจะไม่ได้ระบุว่านานแค่ไหน แต่พวกเขาไม่แน่ใจ เวลาว่างของพวกเขานั้นนานกว่าหนึ่งนาทีอย่างแน่นอน
Sometimes
คำนี้มีหน้าที่เป็นกริยาวิเศษณ์ที่บ่งบอกถึงความถี่สำหรับกริยาที่มีรูปกาลเป็นปัจจุบันกาล โดยบ่งบอกถึงกริยาที่ไม่ได้ทำเป็นบ่อย แต่ก็ไม่ได้ไม่ทำเลย หรือประมาณ 50% เมื่อเทียบกับความถี่โดยรวม หรือทำเป็นครั้งคราว โดยกริยาวิเศษณ์ที่บ่งบอกถึงความถี่นั้นมีหลากหลายคำเช่น always, usually, seldom, rarely, never, และ many more นอกเหนือจากนั้น คำนี้เรายังสามารถวางไว้ไว้ที่ตำแหน่งใดของประโยคก็ได้ เช่น วางไว้ด้านหน้า กึ่งกลางหรือท้ายสุดของประโยค โดยไม่ได้ทำให้ความหมายของประโยคนั้นเปลี่ยนไป
ตัวอย่าง:
1. “Sometimes, Jane forgets to bring her wallet.”
คำอธิบาย: ในประโยคนี้คือการใช้ Sometimes ด้านหน้าประโยค โดยการใช้งาน ‘sometimes’ วางอยู่ที่หน้าประโยคนั้นจำเป็นต้องใช้เครื่องหมายจุลภาค (comma) ตามหลังคำ โดยประโยคนี้นั้นหมายความว่า Jane มักจะลืมกระเป๋าเงินของเธอบ่อยครั้งมาก
2. “Ericka sometimes gets to school late.”
คำอธิบาย: ในประโยคนี้เป็นตัวอย่างของการใช้งานโดยวางอยู่ที่กลางประโยคตามรูปแบบของกริยาวิเศษณ์ทั่วไป โดยเป็นการขยายความถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในประโยคนั้นเป็นทุก ๆ สัปดาห์ – Ericka มักเดินทางไปเรียนสายในทุก ๆ อาทิตย์
3. “Margarette drinks beer sometimes.”
คำอธิบาย: นี่คือตัวอย่างของการใช้คำว่า ‘sometimes’ ในตำแหน่งท้ายประโยค ซึ่งในประโยคนี้มีความหมายว่า Margarette นั้นดื่มเบียร์เป็นบางครั้ง
4. “Julia and Beth sometimes fight over a boy.”
คำอธิบาย: นี่คือตัวอย่างการใช้ในรูปแบบกลางประโยคที่เป็นเพิ่มรายละเอียดถึงเหตุผลของการทะเลาะกันเพราะชอบผู้ชายคนเดียวกัน
5. “She’s intelligent but quite arrogant sometimes.”
คำอธิบาย: นี่คือตัวอย่างในการใช้หลังประโยค โดยการกล่าวถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉลาด แต่ในบางครั้งเธอมันจะแสดงออกมาด้วยความมั่นใจคนไม่ได้สนใจคนอื่น
บทสนทนา:
Bruce: Hello, Will! How’s life going?
Will: It’s fine but quite hard sometimes. How about you?
Bruce: Lee and I sometimes go to Disneyland and travel to different places.
Will: Oh! That’s wonderful. Sometimes, I envy you both.
Bruce: Why is that so?
Will: Well, Liam and I are separated now. We can’t travel together anymore.
Bruce: Too bad. Oh! You can get along with us sometimes.
Will: Thanks a lot!
คำอธิบาย: พวกเขากำลังพูดคุยเกี่ยวกับบ่อยครั้งแค่ไหนที่เกิดสิ่งต่าง ๆ และอ้างอิงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในอดีต ปัจุจุบันและในอนาคต ซึ่งคุณสามารถเห็นได้ว่า Sometimes นั้นทำหน้าที่ในประโยคและถูกวางในตำแหน่งที่แตกต่างกันแต่ยังคงความเดิมไว้อยู่
คำแนะนำสุดท้าย
การเลือกคำที่ถูกต้องเพื่อสร้างประโยคที่สื่อความหมายตามที่เราต้องการนั้นจะสร้างผลกระทบที่ดีสำหรับการสนทนาของเราเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำคำนั้นมีการสะกดที่เหมือนกันแต่มีความหมายที่แตกต่างกัน เช่นคำว่า sometime, some time, และ sometimes ที่เป็นหัวข้อหลักของบทความนี้ เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องทำความเข้าใจความแตกต่างของคำพ้องเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างความเข้าใจผิดระหว่างการสื่อสาร
You may enjoy these articles