คำทักทายภาษาอังกฤษเท่ๆ: พูดว่า “สวัสดี” ใน 12 วิธีที่แตกต่างกัน
การทักทายเป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละภาษา การพูดว่า “สวัสดี” อาจเป็นแค่ท่าทางหรือคำพูดธรรมดาๆ แต่การที่เราพูดออกไปสามารถแสดงถึงบุคลิกภาพและความเคารพที่เรามีต่อผู้อื่นได้
“Hi” และ “Hello” เป็นคำทักทายภาษาอังกฤษทั่วไปที่เราเรียนรู้มาตั้งแต่เด็กๆ โดยไม่คำนึงถึงภาษาแม่ของเรา เมื่อเราพบใครเป็นครั้งแรก เรามักจะทักทายด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “Hi” หรือ “Hello”
การทักทายภาษาอังกฤษเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเรา เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและบทสนทนาของเราอยู่แล้ว แน่นอนว่า “Hello” เป็นวิธีเริ่มต้นบทสนทนาที่ดีอย่างแน่นอน
ทำไมการทักทายภาษาอังกฤษจึงสำคัญ?
การทักทายเป็นภาษาอังกฤษช่วยให้การสนทนาราบรื่นและมีสาระดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบปะกับใครสักคนเป็นครั้งแรก
การทักทายเป็นภาษาอังกฤษมีความสำคัญเพราะสามารถเป็นเครื่องมือสำหรับการเริ่มต้นมิตรภาพใหม่ การสร้างสายสัมพันธ์ การสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและกลมกลืน และสร้างบรรยากาศเชิงบวกระหว่างกัน
คำทักทายภาษาอังกฤษช่วยให้การสนทนาราบรื่นและมีความหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องพบปะกับใครสักคนเป็นครั้งแรก
เมื่อเรียนภาษาใดภาษาหนึ่ง คำทักทายภาษาอังกฤษมีความสำคัญ เพราะช่วยให้คุณแสดงคำศัพท์ภาษาอังกฤษและสร้างบรรยากาศให้เกิดการโต้ตอบเชิงบวกได้
คุณรู้จักคำทักทายภาษาอังกฤษแบบใดบ้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว?
โปรดจำไว้ว่า: การทักทายเป็นภาษาอังกฤษไม่เพียงแต่ทำได้ด้วยวาจาเท่านั้น แต่ยังแสดงออกมาด้วยท่าทางอีกด้วย
คำทักทายภาษาอังกฤษที่ไม่ซ้ำใคร: พูด Hello ในรูปแบบต่างๆ
คุณเบื่อกับคำทักทายเดิมๆ ที่คุ้นเคยเมื่อต้องพบเจอใครคนใหม่หรือไม่? สร้างความประทับใจให้กับคนรู้จักใหม่ของคุณด้วยคำทักทายภาษาอังกฤษที่ไม่ซ้ำใครเหล่านี้ที่จะทำให้คุณโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ
มาเรียนรู้วิธีทักทายผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ในสถานการณ์ต่างๆ กันดีกว่า ต่อไปนี้เป็นวิธีอื่นๆ ในการทักทายผู้อื่น
◙ สถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการ/เป็นมิตร
■ ท่าทาง
- ชนกำปั้น – เป็นวิธีทักทายแบบไม่เป็นทางการแต่มีพลังในการแสดงความเป็นมิตรและเข้าถึงได้ การชนกำปั้นจะช่วยให้คุณรู้สึกเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับอีกฝ่ายได้ทันที
- ไฮไฟว์ – นี่เป็นวิธีสนุกๆ ที่จะเพิ่มความร่าเริงให้กับคำทักทายของคุณ ท่าทางที่ร่าเริงนี้แสดงถึงความคิดเชิงบวกและส่งเสริมความรู้สึกผูกพัน ไม่ว่าคุณจะได้พบปะกับเพื่อนหรือคนรู้จักใหม่ การทักทายกันอย่างแนบเนียนจะทำให้พวกเขายิ้มได้อย่างแน่นอนและสร้างช่วงเวลาที่น่าจดจำซึ่งกำหนดโทนของการโต้ตอบของคุณ
- กอดและหอมแก้ม – มักทำกับเพื่อน ท่าทางเหล่านี้เป็นการทักทายทั่วไปในภาษาอังกฤษที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีและมิตรภาพที่ใกล้ชิด
■ การทักทายด้วยวาจา
- “Hey, what’s up?”
- “Yow!”
- “Howdy!”
- “Hey there!”
- “Hallow”
- “Long time no see!”
- “How’s life going on?”
- “What a delightful surprise to see you here! How are you doing today?”
ลูกค้ามีความสำคัญมาก ลูกค้าจะตามมาด้วยลูกค้า ดังแผ่นดินแห่งแผ่นดิน การไว้ทุกข์หรือร่างกายของแผ่นดิน หมอนของราชสีห์
◙ สถานการณ์ทางการ
■ ท่าทาง
- การจับมือ – การจับมือเป็นการแสดงออกถึงความเป็นทางการและความสุภาพต่ออีกฝ่ายหนึ่ง โดยถือเป็นการทักทายแบบอังกฤษทั่วไปที่ใช้เมื่อพบปะกับเพื่อนร่วมงานใหม่ คู่ค้าทางธุรกิจ ลูกค้า และบุคคลสำคัญ การจับมือแสดงถึงความเป็นทางการและความสุภาพต่ออีกฝ่าย
- โค้งคำนับ – ท่าทางนี้เป็นเรื่องปกติในญี่ปุ่นและถือเป็นการแสดงความเคารพต่ออีกฝ่ายหนึ่ง
- มือทาบอก – ท่าทางที่ประณีตและสง่างามนี้แสดงถึงความจริงใจและความเคารพ ทำให้เหมาะสำหรับงานทางการหรือโอกาสที่เป็นทางการ การที่คุณวางมือบนหัวใจเมื่อทักทายใครสักคน แสดงว่าคุณกำลังแสดงความสนใจอย่างจริงใจและสร้างความรู้สึกไว้วางใจและความจริงใจในการโต้ตอบกัน
■ การทักทายด้วยวาจา
- “Good morning/afternoon/evening, it’s a pleasure to meet you!”
- “Charmed to meet you!”
- “It’s great to finally connect! I’ve been looking forward to meeting you.”
- “If I’m not mistaken, you’re [name], right? It’s lovely to meet you!”
- “I’m so glad I’ve finally met you. How do you do?”
กล่าวคำว่า “สวัสดี” ในภาษาต่างๆ
บางประเทศมีคำทักทายภาษาอังกฤษที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตนเองที่ใครๆ ก็สามารถเรียนรู้ได้ อย่างไรก็ตาม ในบางประเทศ คำทักทาย “hello” หรือ “hi” ไม่มีคำแปลที่แน่นอนในภาษาแม่ของพวกเขา จึงใช้คำทักทายภาษาอังกฤษเหล่านี้แทน
ภาษาจีน – “Ni Hao”
ภาษาญี่ปุ่น – “Konichiwa”
ภาษาอินเดีย – “Namaste”
ภาษาภาษา – “Sawadee”
ภาษาเกาหลี – “Annyeonghaseyo”
ภาษาอินโดนิเซีย – “Halo”
ภาษาบราซิล – “Ola”
ภาษาสเปน – “Hola”
ภาษาเวียดนาม – “Xin Chao”
ภาษาฝรั่งเศส – “Bonjour”
คุณจะพูดคำทักทายภาษาอังกฤษเหล่านี้ในภาษาของคุณอย่างไร?
Note: ในฟิลิปปินส์ เราไม่มีคำแปลที่แน่นอนของคำเหล่านี้ ไม่เหมือนในประเทศอื่นๆ ในเอเชีย นอกจากนี้ เมื่อเราพูดว่า “สวัสดี” เรามักจะเติมคำแปลว่า “How are you หรือ “Kumusta ka?” ลงไปด้วย วิธีนี้ทำให้ความคิดนั้นสมเหตุสมผลและเข้าใจได้
การตอบรับคำทักทายภาษาอังกฤษ
โดยทั่วไป เมื่อมีคนทักทายเราด้วยคำว่า “hi” หรือ “hello” เราจะตอบกลับด้วยคำเดียวกันเป๊ะๆ หรือในทางกลับกัน ในการสนทนาภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน เราจะเติมคำถาม “How are you?” ต่อท้ายคำว่า “hi” หรือ “hello” โดยเราจะตอบกลับว่า “I’m fine, thank you” หรือ “Very well, thanks.”
การตอบรับคำทักทายภาษาอังกฤษนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละสถานการณ์ เช่น “How do you do?” ใช้ในโอกาสที่เป็นทางการ ส่วนคำตอบที่ได้จะเป็น “How do you do?” ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ คนรุ่นปัจจุบันไม่ค่อยใช้คำทักทายแบบนี้เนื่องจากกระแสนิยมทางภาษา
การจับมือที่มั่นคงมักจะมาพร้อมกับคำทักทาย เช่น “Pleased to meet you” ซึ่งมักจะพบเห็นได้ในสถานการณ์ที่เป็นทางการ เช่น การประชุมทางธุรกิจหรือการประชุมสัมมนา คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคำนี้ก็คือ “Pleased to meet you, too”.
ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการหรือเป็นกันเอง การทักทายเพื่อนว่า “Hey, what’s up?” ถือเป็นเรื่องปกติ คำตอบที่สั้นที่สุดสำหรับคำนี้อาจเป็น “Not bad” or “Fine.” คำตอบเหล่านี้ไม่เหมาะสมในสถานการณ์ที่เป็นทางการเนื่องจากฟังดูไม่เป็นมืออาชีพ
คำทักทายภาษาอังกฤษอีกแบบหนึ่งในโอกาสที่ไม่เป็นทางการคือ “Oh, you’re here!” และสามารถตอบได้ว่าเป็น “Yeah, you too!” หรือ “well, obviously” โปรดจำไว้ว่าสำนวนเหล่านี้ใช้ได้เฉพาะในการสนทนาแบบสบาย ๆ เท่านั้น ไม่ใช่ในการสนทนาที่เป็นทางการ
การตอบรับคำทักทายภาษาอังกฤษอย่างเหมาะสมเป็นวิธีหนึ่งในการเชื่อมช่องว่างในการสื่อสาร การตอบสนองที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่ดีเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งหรือการตีความข้อความที่คุณต้องการสื่อผิด ควรคำนึงถึงบุคคลที่คุณกำลังพูดคุยด้วยเสมอ
วิธีการพูดคุยกับคนที่คุณพบเป็นครั้งแรก
เมื่อเราพบใครเป็นครั้งแรก เราจะเริ่มด้วยการทักทายอย่างสุภาพและเรียกเขาว่า “Sir” หรือ “Madam” นี่เป็นวิธีสุภาพในการเรียกเขาอย่างเหมาะสม ไม่ว่าสถานะทางสังคมของเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม
ถ้าเรารู้จักพวกเขาอยู่แล้ว เราก็สามารถเรียกพวกเขาตามคำนำหน้า เช่น “Mr.”, “Mrs.”, “Miss”, “Dr.”, “Atty.”, เป็นต้น. ขึ้นอยู่กับว่าเรากำลังคุยกับใคร บางครั้งการเรียกชื่อพวกเขาด้วยคำนำหน้าอาจดูน่าอึดอัด ดังนั้นเราจึงมักจะใช้คำว่า “Sir” หรือ “Madam”
ในทางกลับกัน การเรียกชื่อแบบเป็นมิตรหรือไม่เป็นทางการก็ไม่สำคัญ เพราะขึ้นอยู่กับว่าผู้คนจะเรียกกันอย่างไร ตราบใดที่พวกเขารู้สึกสบายใจและไม่ทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคือง ตัวอย่างเช่น ในฟิลิปปินส์ เพื่อนจะเรียกกันด้วยคำว่า “Friend” หรือ “Beshy” ซึ่งจริงๆ แล้วไม่เป็นทางการเลย
“Sis” หรือ “Bro” เป็นคำเรียกทั่วๆ ไปที่ใช้เรียกเพื่อนและมักพบได้ในหลายประเทศ ในบางประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ มักไม่ใช้คำนำหน้าเรียกคนอื่น แต่จะเรียกด้วยชื่อจริง (เช่น สหรัฐอเมริกา) เช่น “John” “Tom” เป็นต้น
การทักทายที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการทักทายเป็นภาษาอังกฤษ แสดงถึงความเคารพและสุภาพต่ออีกฝ่าย แนะนำตัวเองอย่างมั่นใจ ตอบรับคำทักทายอย่างเหมาะสม และทักทายอย่างเหมาะสมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
บทสรุป
การทักทายด้วยภาษาอังกฤษที่แตกต่างกันจะทำให้การโต้ตอบน่าสนใจและน่าจดจำมากขึ้น ครั้งต่อไปที่คุณพบใครสักคน ลองใช้วิธีทักทายใหม่ๆ ดู แล้วดูว่าจะทำให้วันของพวกเขาสดใสขึ้นแค่ไหน ตอบกลับอย่างเหมาะสมและทักทายพวกเขาอย่างสุภาพ
จำไว้ว่าความมั่นใจคือสิ่งสำคัญ ดังนั้นจงออกไปทักทายโลกด้วยคำทักทายภาษาอังกฤษเหล่านี้ และสร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่คุณพบเจอ