ความแตกต่างระหว่างภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและภาษาอังกฤษแบบบริติชที่คุณควรรู้!
เกริ่นนำ
ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาสากลที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก แต่มีการพัฒนาที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละภูมิภาค ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและภาษาอังกฤษแบบบริติชนั้นถือเป็นแม่แบบของภาษาอังกฤษ ในแต่ละแบบนั้นก็จะมีคำศัพท์ที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงการออกเสียงและการสะกดที่ไม่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าภาษาอังกฤษทั้งสองแบบนั้นจะได้รับอิทธิพลซึ่งกันและกัน และมีความคล้ายคลึงกันอยู่ไม่มากก็น้อย แต่ก็มีจุดที่แตกต่างกันอย่างมาก และยังชวนให้น่าค้นหา
ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและภาษาอังกฤษแบบบริติชนั้นแม้จะมีรากมาจากภาษาเดียวกัน แต่เมื่อการใช้งานและการพัฒนาที่แตกต่างกัน ทำให้ท้ายที่สุดแล้วจึงเกิดความแตกต่างที่โดดเด่นในการออกเสียง การบัญญัติคำใหม่รวมไปถึงการสะกดคำนั้น ๆ ในเนื้อความข้างล่างนี้ เราจะพาทุกคนมาสำรวจความแตกต่างที่ว่านี้ระหว่างภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและภาษาอังกฤษแบบบริติช ค่อย ๆ ค้นหาผ่านคำศัพท์ การสะกด และการออกเสียงไปทีละคำ
◙ หมวดคำศัพท์: การชนกันของพจนานุกรม
ความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนระหว่างภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและภาษาอังกฤษแบบบริติชนั้นคือคำศัพท์ มีคำศัพท์มากมายที่แตกต่างกันในแง่ของการสื่อความหมาย อีกทั้งยังสร้างความสับสนและความบันเทิงเป็นครั้งคราว
- Automobile หรือ a Car?
ในสหรัฐอมเริการ “automobile” ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายเมื่อต้องการสื่อความถึงรถยนต์ แต่อีกฝากหนึ่งของมหาสมุทรอย่างประเทศอังกฤษจะใช้คำว่า “car” นี่คือคำศัพท์พื้นฐานที่แสดงให้เห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจนระหว่างภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและภาษาอังกฤษแบบบริติช
- Elevator หรือ Lift?
ลองจินตนาการเมื่อคุณเดินทางไปหาเพื่อนที่เมือลอนดอน และพวกเขาแนะนำให้คุณขึ้น “lift” มายังที่พัก แต่ในสหรัฐอเมริกา คุณอาจจคุ้นเคยกับคำว่า “elevator.” การใช้คำที่ไม่สอดคล้องกันระหว่างผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษที่คุ้นชินกับภาษาอังกฤษรูปแบบหนึ่ง อาจสร้างความสับสนเมื่อสื่อสารกับผู้พูดภาษาอังกฤษในอีกรูปแบบหนึ่ง
- Apartment หรือ Flat?
ในสหรัฐอเมริกา (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน) คำว่า apartment จะใช้กันอย่างแพร่หลาย และคำว่า flat จะใช้ในประเทศอังกฤษ (ภาษาอังกฤษแบบบริติช) อย่างไรก็ตาม ในหลายกรณี คำว่า apartment มักจะถูกใช้ในฐานะของที่พักที่มีความหรูหรามากกว่า flat ที่ราคาสามารถจับต้องได้ คำว่า apartment ถึงถูกใช้ในหลากหลายระดับ แต่ flat มักจะสื่อแค่ระดับของที่พักระดับเดียว จึงค่อนข้างสำคัญที่สำคัญที่สุดคือทั้งสองอย่างก็ทั้งสองคำเป็นที่พักในรูปแบบเดียวกัน!
- Garbage หรือ Rubbish?
Garbage มักถูกใช้ในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน และ rubbish จะถูกใข้ในภาษาอังกฤษแบบบริติช โดยปกติแล้ว garbage จะสื่อความถึงถังขยะสำหรัย “เศษอาหาร” และ rubbish คือถังขยะสำหรับ “ขยะทั่วไป” แต่อย่างไรก็ตาม ความหมายของทั้งสองคำคือคำว่า “ถังขยะ”
◙ การสะกดคำ: “or” หรือ “our”; “er” หรือ “re”; “ll” หรือ “l”; “ize” หรือ “ise”?
ความแตกต่างของการสะกดคำในภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและภาษาอังกฤษแบบบริติชคืออีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจ โดยปกติแล้วจะมีคำศัพท์หลายคำจากทั้งสองภาษาที่มีการเขียนที่ใกล้เคียงกัน แต่สะกดคนละแบบกันหรือคนละตัวอักษร และอาจสร้างความสับสนให้กับผู้เรียนภาษาอังกฤษ ลองดูตัวอย่างทางด้านล่าง
- Color หรือ Colour?
ในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน คำว่า “color” จะสะกดโดยไม่มี “u.” แต่ในภาษาอังกฤษแบบบริติชจะสะกดด้วยคำว่า “colour.” ความแตกต่างนี้อาจเรียนได้ว่า คำที่ลงท้ายด้วย “-or” ในภาษาอังกฤษแบบอเมริกันจะสะกดและลงท้ายด้วย “-our” ในภาษาอังกฤษแบบบริติชแทน เช่นคำว่า “flavor” และ “flavour” หรือ “neighbor” และ “neighbour.”
ตัวอย่าง:
What is your favorite color? – หากคุณเห็นคำหลายคำที่สะกดด้วย or ในลักษณะนี้ คุณสามารถกล่าวได้ว่านี่คือภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน
What is your favourite colour? – และนี่คือภาษาอังกฤษแบบบริติช
- Theater หรือ Theatre?
การสะกดคำของคำที่แปลว่าสถานที่ที่ใช้สำหรับการแสดงศิลปะแสดงสด หรือการแสดงที่เกี่ยวข้อง ในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน จะสะกดด้วยคำว่า “theater” ในขณะที่ภาษาอังกฤษแบบบริติชจะสะกดด้วยคำว่า”theatre.” ในสถานการณ์นี้ไม่จำกัดเพียงแค่คำนี้ แต่คำที่ใกล้เคียงอย่างคำว่า “center” และ “centre” หรือ “meter” และ “metre.”
ตัวอย่าง:
The movie theater is just 100 meters from my apartment. – ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน
The movie theatre is just 100 metres from my flat. – ภาษาอังกฤษแบบบริติช
- Cancelled หรือ Canceled?
คำเหล่านี้จะอยู่ในรูปของอดีตของคำว่า Cancel โดยคำว่า Cancelled จะสะกดด้วยการซ้ำ “l” มักใช้ในภาษาอังกฤษแบบบริติช ในขณะที่ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันจะสะกดด้วยการใช้ “l” เพียงตัวเดียว โดยการใช้งานนั้นสามารถพบเจอได้ทั่วไป เช่นเดียวกับคำว่า “travelled” และ “traveled.”
- Recognize หรือ recognise?
ในกรณีนี้จะคล้ายคลึงกับคำว่า cancelled และ canceled ที่ทั้งสองคำนั้นมีโอกาสที่จะพบได้ทั่วไป Recognize นั้นเป็นรูปคำของภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน ในขณะที่ recognise เป็นคำของภาษาอังกฤษแบบบริติช คุณสามารถวิเคราะห์และแยกแยะคำเหล่านี้ว่ามาจากภาษาอังกฤษแบบไหนได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกันคำว่า “organize และ organise” หรือ “realize และ realise.”
◙ การออกเสียง: สำเนียงที่หลากหลายและความแตกต่างด้านสัทศาสตร์
บางทีความแตกต่างที่เห็นกันได้อย่างชัดเจนที่สุดระหว่างภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและภาษาอังกฤษแบบบริติชนั้นคือสำเนียงและวิธีการออกเสียง โดยจะมีหลากหลายความแตกต่างด้านการออกเสียงจากหัวข้อทางด้านล่าง:
- การออกเสียงแบบ Rhotic หรือเน้นการออกเสียงที่ ‘R’
ในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน เสียง ‘r’ โดยส่วนใหญ่แล้วจะถูกออกเสียงอย่างชัดเจน ในขณะที่ภาษาอังกฤษแบบบริติชนั้นมักจะไม่ออกเสียง เมื่ออยู่ในตำแหน่งหน้าสุดหรือหลังสุดของคำนั้น ๆ เช่น “car” หรือ “hard” ที่จะออกเสียงแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยปกติแล้วภาษาอังกฤษแบบบริติชนั้น พูดผู้พูดมักไม่ออกเสียง “r” เช่นในคำว่า water (wo-tuh) หรือ river (ri-vuh) เป็นต้น
- เสียงสระ
การออกเสียงสระนั้นออกแตกต่างเสียงแตกต่างกันระหว่างภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและภาษาอังกฤษแบบบริติช ตัวอย่างเช่น “a” ในคำว่า “path” หรือ “dance” นั้นออกเสียงที่แตกต่างกัน เพราะหากเทียบกันแล้ว ภาษาอังกฤษแบบบริติชที่ออกเสียงที่สั้นและรวบคำมากกว่าภาษาอังกฤษแบบอเมริกันที่มักออกเสียงยาวและเน้นเสียงสระ
- การออกเสียงพยัญชนะเฉพาะSpecific Consonants
คุณอาจจะเคยเจอว่าทำไมเพื่อนของคุณที่พูดภาษาอังกฤษแบบบริติชนั้นถึงออกเสียงคำว่า “city” อย่างชัดเจนด้วย “si-ti” และเพื่อนของคุณที่พูดภาษาอังกฤษแบบอเมริกันออกเสียงว่า “si-di” หรือเปลี่ยนเสียงพยัญชนะจาก /t/ เป็น /d/ นี่คือสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไประหว่างภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและภาษาอังกฤษแบบบริติช
ในภาษาอังกฤษแบบบริติช คำว่า “city” “international” “sentence ” และคำอื่น ๆ ที่มี –nt จะออกเสียงอย่างชัดเจน แต่ในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน เสียงพยัญชนะเหล่านี้จะเปลี่ยนไป City เป็น “si-di,” international และ sentence เป็น “iner-nash-nal” และ “senens” ตามลำดับ
คุณสามารถฝึกฝนการออกเสียงภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและภาษาอังกฤษแบบบริติชผ่านการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ตัวต่อตัวที่นำการเรียนการสอนโดยครู 100% มีหนทางมากมายในการพัฒนาการออกเสียงภาษาอังกฤษของคุณ ไคว่คว้าโอกาสนี้ไว้ และฝึกฝนจนเชี่ยวชาญในภาษาอังกฤษทั้งสองแบบ
ไม่ว่าคุณจะเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่บ้าน หรือเข้ารวมคลาสเรียนแบบพบปะกัน คุณสามารถที่จะค้นหาความแตกต่างระหว่างภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและภาษาอังกฤษแบบบริติชได้ ด้วยเหตุนี้ คุณก็จะสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นรวมไปถึงหลีกเลี่ยงความสับสนที่อาจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณท่องเที่ยวไปยังสถานที่อย่างประเทศสหรัฐอเมริกา หรือประเทศอังกฤษ
ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและภาษาอังกฤษแบบบริติช
ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันและภาษาอังกฤษแบบบริติช แม้ว่าจะมีรากของภาษามาจากภาษาเดียวกัน แต่เนื่องจากการพัฒนาทางภาษาที่แตกต่างกัน ทำให้มีคำศัพท์ การสะกคำ หรือการออกเสียงที่แตกต่างกัน ช่วยส่งเสริมความรุ่มรวยและความหลากหลายทางภาษาให้กับภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก การทำความเข้าใจและชื่นชมความแตกต่างเหล่านี้ จะช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาและความตระหนักรู้ทางวัฒนธรรมของพวกเราได้ ดังนั้นไม่ว่จะชอบใช้ “Lift” หรือ “Elevator” มาเฉลิมฉลองความงดงามของภาษาอังกฤษทั้งแบบอเมริกันและแบบอังกฤษกันดีกว่า